
ค่าโอนบ้านที่ต้องรู้ล่วงหน้าก่อนซื้อขาย: เตรียมงบประมาณให้พร้อมก่อนทำสัญญา
การซื้อขายบ้านหรือที่อยู่อาศัยไม่ใช่เพียงแค่การตกลงราคากับผู้ขาย แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยหนึ่งในค่าใช้จ่ายสำคัญที่หลายคนมักมองข้ามก็คือ ค่าโอนบ้าน ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการโอนกรรมสิทธิ์และการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน การเตรียมความเข้าใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยให้การซื้อขายราบรื่น ไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณในช่วงสุดท้าย
ทำไมต้องรู้เรื่องค่าโอนบ้านล่วงหน้า?
หลายคนมักคิดว่าการซื้อบ้านมีเพียงราคาซื้อขายเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การโอนกรรมสิทธิ์มีค่าใช้จ่ายที่อาจสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาท หากไม่ได้เตรียมเงินส่วนนี้ไว้ล่วงหน้า อาจทำให้กระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ล่าช้าหรือไม่สามารถทำสัญญาได้ตามกำหนด การรู้รายละเอียดของค่าโอนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถวางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง
ค่าใช้จ่ายหลักในการโอนบ้าน
- ค่าธรรมเนียมการโอน (Transfer Fee)
เป็นค่าธรรมเนียมที่สำนักงานที่ดินเรียกเก็บตามมูลค่าทรัพย์สินที่ประเมิน ซึ่งมักอยู่ในอัตราประมาณ 2% ของราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตรานี้อาจมีการปรับตามนโยบายของรัฐในบางช่วงเวลา - ค่าอากรแสตมป์หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ
ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของการถือครองทรัพย์สิน หากผู้ขายครอบครองบ้านหรือที่ดินเกิน 5 ปี มักเสียค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 0.5% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน (แล้วแต่ราคาใดสูงกว่า) แต่ถ้าถือครองไม่ถึง 5 ปี อาจต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแทน - ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
โดยปกติผู้ขายจะต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือภาษีนิติบุคคล ซึ่งคำนวณจากราคาประเมินของกรมที่ดินตามสูตรที่กรมสรรพากรกำหนด - ค่าจดจำนอง (ถ้ามีการกู้ธนาคาร)
สำหรับผู้ซื้อที่ใช้สินเชื่อบ้าน จะมีค่าจดทะเบียนจำนองซึ่งโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1% ของวงเงินกู้ เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้กู้ต้องชำระเพิ่มเติม
ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าโอน?
โดยทั่วไป ค่าโอนสามารถตกลงกันได้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย อาจแบ่งครึ่งกัน หรือผู้ใดผู้หนึ่งรับผิดชอบทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขาย การทำความเข้าใจเรื่องนี้ล่วงหน้าจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาและความขัดแย้งในภายหลัง
เคล็ดลับการเตรียมตัวเรื่องค่าโอนบ้าน
- สอบถามรายละเอียดล่วงหน้า กับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโดยประมาณ เพื่อเตรียมงบประมาณได้ถูกต้อง
- ตรวจสอบราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะราคานี้เป็นฐานในการคำนวณค่าธรรมเนียมและภาษี
- เจรจากับคู่สัญญาให้ชัดเจน ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายแต่ละส่วน
- กันงบประมาณสำรองไว้ เผื่อกรณีมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมอื่นๆ หรือค่าบริการด้านกฎหมาย
สรุป
การซื้อขายบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของราคาซื้อขาย แต่ยังมีค่าใช้จ่ายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการโอนกรรมสิทธิ์ การเข้าใจและเตรียมตัวเกี่ยวกับ ค่าโอนบ้าน จะช่วยให้กระบวนการซื้อขายดำเนินไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของความล่าช้า และทำให้ผู้ซื้อผู้ขายต่างพึงพอใจกับการทำธุรกรรมครั้งสำคัญนี้