133T0717 หลอกที่บ้านว่าเป็นผู้จัดการ แต่จริงๆเป็นคนงานรายวัน JPC Films

ค่าใช้จ่ายรายปีของการถือครองบ้านในไทย: รู้ไว้ก่อนเป็นเจ้าของบ้าน

การมีบ้านเป็นของตัวเองถือเป็นความฝันของใครหลายคน แต่การซื้อบ้านไม่ได้หมายความว่าจะหมดหน้าที่หลังจากจ่ายเงินแล้ว เพราะการถือครองบ้านยังมีค่าใช้จ่ายรายปีที่เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบ ซึ่งหลายคนอาจยังไม่ทราบหรือมองข้าม

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ ค่าใช้จ่ายรายปีที่สำคัญในการถือครองบ้านในประเทศไทย เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินและบริหารบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ


1. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา รัฐบาลได้จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแทนภาษีโรงเรือนและที่ดินเดิม โดยภาษีนี้จะเรียกเก็บปีละครั้งจากเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท

  • อัตราภาษี ขึ้นอยู่กับประเภทของที่ดินและมูลค่าประเมิน เช่น ที่อยู่อาศัย, ที่ดินว่างเปล่า, ที่ดินเพื่อการเกษตร
  • โดยปกติที่อยู่อาศัยจะได้รับการยกเว้นภาษีในวงเงินขั้นต่ำ และเสียภาษีในอัตราต่ำกว่า
  • เจ้าของบ้านต้องตรวจสอบและชำระภาษีนี้ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและดอกเบี้ย

2. ค่าส่วนกลาง

บ้านในโครงการจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมมักมี ค่าส่วนกลาง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับดูแลพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ถนนในโครงการ ระบบรักษาความปลอดภัย สวนสาธารณะ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

  • ค่าส่วนกลางจะถูกเรียกเก็บเป็นรายปีหรือรายเดือน ขึ้นอยู่กับโครงการ
  • จำนวนเงินขึ้นอยู่กับขนาดบ้านและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ
  • เจ้าของบ้านควรศึกษาข้อมูลค่าส่วนกลางก่อนซื้อ เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในระยะยาว

3. ค่าประกันภัยบ้าน

การทำ ประกันภัยบ้าน ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ควรมีเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ

  • ประกันภัยบ้านจะช่วยลดความเสียหายทางการเงินหากเกิดเหตุไม่คาดคิด
  • ค่าประกันขึ้นอยู่กับขนาดบ้าน ทำเล และมูลค่าทรัพย์สิน
  • ควรต่ออายุและตรวจสอบความคุ้มครองประจำปี

4. ค่าสาธารณูปโภคและค่าบำรุงรักษา

นอกจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาษีและส่วนกลาง ยังมี ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ที่เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบ

  • รวมถึงค่าบำรุงรักษาบ้าน เช่น การซ่อมแซมหลังคา ระบบประปา ทาสีบ้าน
  • ควรวางแผนงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพื่อป้องกันปัญหาการเงิน

5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

  • หากบ้านมีการจดทะเบียนจำนอง จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมธนาคาร
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางในหมู่บ้าน
  • ค่าภาษีการโอนหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ในกรณีที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ในอนาคต

สรุป

การถือครองบ้านในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายรายปีหลายรายการที่เจ้าของบ้านควรทราบและวางแผนรับมือให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินและรักษามูลค่าทรัพย์สินของตนเอง

การเข้าใจค่าใช้จ่ายเหล่านี้ตั้งแต่แรก จะช่วยให้คุณมีการวางแผนการเงินที่มั่นคงและใช้ชีวิตในบ้านอย่างสบายใจมากขึ้น

Related Posts

[สมบูรณ์] 200T0906 แปะ QR CODE บนไหล่เธอ เมื่อเจอความจริงถึงกับ ละครสั้น

บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว นวัตกรรมการอยู่อาศัยแห่งอนาคต บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือศูนย์รวมความบันเทิง ในยุคดิจิทัล การใช้ชีวิตของครอบครัวไทยไม่ได้จำกัดเพียงการพักผ่อนในบ้านแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนไปสู่การผสมผสาน เทคโนโลยีความบันเทิงขั้นสูง เข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับความสนใจมากขึ้นคือ บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน การเรียนรู้ และการสร้างสัมพันธ์ในครอบครัว AR และ VR คืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับบ้านยุคใหม่ เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในบ้าน ไม่เพียงให้ความบันเทิง…

[สมบูรณ์] 199T0906 ปริศนาความทรงจำ

บ้านในพื้นที่ Slow-Living Community Slow-Living คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม ในยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การเดินทาง และการแข่งขันทางสังคม แนวคิด Slow-Living ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีสมดุล และให้ความสำคัญกับสุขภาพกายใจ บ้านที่ตั้งอยู่ใน Slow-Living Community จึงไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสังคมที่สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ บ้านใน Slow-Living Community เป็นอย่างไร ข้อดีของบ้านใน Slow-Living…

[สมบูรณ์] 198T0906 วิวาห์ล่มพาพบรัก

บ้านที่ออกแบบให้เชื่อม Indoor-Outdoor Seamless เติมเต็มวิถีชีวิตคนไทยยุคใหม่ 🌿🏡✨ ทำไมบ้านสมัยใหม่ต้องเชื่อม Indoor-Outdoor วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับธรรมชาติและพื้นที่กลางแจ้งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เรือนไทยที่มีชานกว้างให้คนในครอบครัวรวมตัว ไปจนถึงสวนหลังบ้านที่ใช้ปลูกผักหรือจัดงานเล็ก ๆ ในครอบครัว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ้านสมัยใหม่ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่น แต่ความต้องการ “พื้นที่เปิดโล่ง” ก็ยังคงอยู่ การออกแบบบ้านที่ เชื่อม Indoor-Outdoor แบบ Seamless จึงเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านและนอกบ้านต่อเนื่องกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งในเชิงความสะดวก ความสวยงาม และประโยชน์ด้านสุขภาพ…