
ที่ดินที่เหมาะสำหรับทำแคมป์ปิ้งหรือกลุ่ม Outdoor: เทรนด์ใหม่ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม
การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor Activities) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการหนีจากความวุ่นวายในเมือง และค้นหาความสงบ ความเป็นส่วนตัว และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ส่งผลให้ “ที่ดินสำหรับทำแคมป์ปิ้ง” กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตาทั้งในแง่ของการพักผ่อนและการลงทุน
ในบทความนี้ เราจะพาไปดูว่าลักษณะของที่ดินแบบไหนเหมาะกับการพัฒนาเพื่อทำแคมป์ปิ้งหรือกิจกรรม Outdoor และเหตุผลว่าทำไมตลาดนี้ถึงมีศักยภาพในการเติบโตในประเทศไทยหลังปี 2025
1. ลักษณะที่ควรมองหาในที่ดินสำหรับแคมป์ปิ้ง
🌳 ธรรมชาติสมบูรณ์ ไม่ไกลเกินเมือง
ที่ดินที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เช่น ป่าเขา ริมลำธาร หรือทะเลสาบ มีเสน่ห์เฉพาะตัว แต่ต้องไม่ไกลจากตัวเมืองเกินไป การเดินทางไม่ควรเกิน 2–3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ เพื่อให้สะดวกกับผู้มาเยือนที่มีเวลาจำกัดในวันหยุด
🛣️ เข้าถึงง่ายด้วยถนนที่ดี
ที่ดินที่เหมาะต้องมีทางเข้าออกชัดเจน มีถนนที่รถสามารถเข้าถึงได้แม้ในฤดูฝน หากติดถนนลาดยางจะยิ่งเพิ่มมูลค่า โดยเฉพาะถ้ามีไฟฟ้าและสัญญาณอินเทอร์เน็ตพอใช้งาน
🏕️ ลักษณะพื้นที่เหมาะกับการตั้งแคมป์
พื้นที่ควรเป็นลานโล่งมีความราบเรียบบางส่วน มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ หรือวิวธรรมชาติที่เป็นจุดขาย เช่น วิวทะเลหมอก วิวภูเขา หรือจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น/ตก
2. ทำไมที่ดิน Outdoor ถึงมีแนวโน้มเติบโต
🔥 เทรนด์ Staycation และ Camping ไม่ได้มาเล่นๆ
หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนให้ความสำคัญกับพื้นที่เปิดโล่งและการใช้ชีวิตกลางแจ้งมากขึ้น ทำให้กิจกรรมอย่างแคมป์ปิ้ง กลายเป็นงานอดิเรกของคนจำนวนมากโดยเฉพาะวัยทำงานและครอบครัวรุ่นใหม่
🧭 การท่องเที่ยววิถีใหม่ที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัว
แคมป์ปิ้งช่วยให้ผู้คนได้ใช้เวลาร่วมกันในพื้นที่ที่ไม่ต้องวุ่นวายกับผู้คนมากนัก และสามารถดีไซน์ประสบการณ์ของตัวเองได้ เช่น นอนเต็นท์ ทำอาหาร ดูดาว ทำให้ที่ดินที่รองรับสิ่งเหล่านี้มีคุณค่ามากขึ้นเรื่อยๆ
3. รูปแบบการใช้ประโยชน์จากที่ดินแคมป์ปิ้ง
⛺ เปิดเป็นแคมป์ให้เช่าแบบพื้นฐาน
ผู้ลงทุนสามารถแบ่งโซนแคมป์ จัดวางห้องน้ำแบบสุขภัณฑ์แห้ง จุดล้างจาน และให้บริการพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงในช่วงแรก
🛖 พัฒนาเป็น Glamping (แคมป์หรู)
สำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง การทำเต็นท์แบบ Luxury มีเตียงนอน ห้องน้ำในตัว วิวดี บริการพร้อม ก็สามารถสร้างรายได้หลักพันถึงหลักหมื่นบาทต่อคืน
🧺 จัดกิจกรรม Outdoor สำหรับกลุ่ม
เช่น กลุ่มวิ่งเทรล โยคะกลางป่า เวิร์กชอปถ่ายภาพ หรือกิจกรรมสร้างทีมองค์กร (Team Building) ก็เป็นอีกทางเลือกที่สร้างรายได้ระยะยาว
4. พื้นที่แนะนำในไทยที่เหมาะกับการพัฒนา
- เขาใหญ่–วังน้ำเขียว: อากาศดีทั้งปี มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียน
- เชียงใหม่–แม่ริม: ธรรมชาติสวย ใกล้เมืองใหญ่ เหมาะสำหรับกลุ่ม Glamping
- ราชบุรี–สวนผึ้ง: ได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัว เดินทางสะดวก
- เพชรบูรณ์–เขาค้อ: จุดชมทะเลหมอกชื่อดัง มีวิวที่เป็นจุดขายหลัก
5. ข้อควรระวังเมื่อซื้อที่ดินเพื่อทำแคมป์
- ตรวจสอบโฉนดและกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจน
- ระวังที่ดินป่าสงวน/พื้นที่อนุรักษ์
- ไม่รบกวนชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
- มีการประเมินความเสี่ยงด้านภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม
สรุป: ที่ดิน Outdoor คือทางเลือกใหม่ของการลงทุนที่ตอบโจทย์ยุคใหม่
การลงทุนในที่ดินเพื่อพัฒนาแคมป์ปิ้งหรือพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้ง ไม่เพียงตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างรายได้แบบยั่งยืน โดยมีต้นทุนเริ่มต้นที่ไม่สูง และสามารถปรับขนาดตามความพร้อมของผู้ลงทุนได้
ถ้าคุณกำลังมองหาธุรกิจที่เชื่อมโยงธรรมชาติกับการพักผ่อน ที่ดิน Outdoor อาจเป็นคำตอบที่คุ้มค่าและน่าลองที่สุดในช่วงเวลานี้ครับ