ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มดิจิทัลโนแมดในไทย: โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม
ในยุคที่เทคโนโลยีเปิดโอกาสให้ผู้คนทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลก กลุ่ม “ดิจิทัลโนแมด” (Digital Nomads) จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว และประเทศไทยก็กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต หรือเกาะสมุย ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มนี้จึงกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในไทย
ใครคือดิจิทัลโนแมด?
ดิจิทัลโนแมดคือกลุ่มคนที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อทำงานทางไกล พวกเขาสามารถประกอบอาชีพได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ นักออกแบบ นักเขียน โปรแกรมเมอร์ หรือนักลงทุนออนไลน์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ไม่ยึดติดสถานที่ และมักมองหาประเทศที่มีค่าครองชีพเหมาะสม สภาพแวดล้อมดี และระบบอินเทอร์เน็ตเสถียร ซึ่งประเทศไทยตอบโจทย์ครบทุกด้าน
ประเทศไทย: จุดหมายปลายทางในฝันของดิจิทัลโนแมด
ประเทศไทยถือเป็น “ฮับ” สำคัญของดิจิทัลโนแมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น:
- ค่าครองชีพไม่สูง
- อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงแทบทุกพื้นที่
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- สภาพอากาศดี และมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย
- วีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าแบบพิเศษบางประเภทช่วยให้พักอยู่ได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม
ลักษณะที่อยู่อาศัยที่โนแมดต้องการ
ดิจิทัลโนแมดไม่ได้มองหาที่พักแบบหรูหราเสมอไป สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญคือ “ความสะดวกในการใช้ชีวิตและทำงาน” ดังนี้:
- อินเทอร์เน็ตต้องเร็วและเสถียร: จุดขายอันดับหนึ่งของที่พักในกลุ่มนี้
- มีพื้นที่ทำงาน: ห้องหรือมุมเล็กๆ ที่จัดวางโต๊ะ เก้าอี้ และปลั๊กไฟเพียงพอ
- เฟอร์นิเจอร์ครบ พร้อมอยู่: ไม่ต้องยุ่งยากในการหาซื้อสิ่งของเพิ่มเติม
- ความยืดหยุ่นในการเช่า: ไม่ผูกมัดนาน มีสัญญาเช่าระยะสั้นหรือรายเดือน
- ทำเลใกล้แหล่งคาเฟ่/โคเวิร์กกิ้งสเปซ: เพราะโนแมดชอบสลับสถานที่ทำงาน
- บรรยากาศปลอดภัย และมีบริการสนับสนุน เช่น แม่บ้านหรือซักรีด
ทำเลยอดนิยมสำหรับดิจิทัลโนแมดในไทย
1. เชียงใหม่
เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องไลฟ์สไตล์เรียบง่าย อากาศดี และมีคอมมูนิตี้โนแมดขนาดใหญ่ ค่าเช่าที่อยู่อาศัยไม่สูง จึงเป็นอันดับต้นๆ ในใจใครหลายคน
2. กรุงเทพฯ
แม้ค่าครองชีพจะสูงกว่า แต่กรุงเทพมีโอกาสทางธุรกิจเยอะ อินเทอร์เน็ตเร็ว มีคาเฟ่และโคเวิร์กกิ้งมากมาย เหมาะกับผู้ที่ยังต้องติดต่อกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด
3. ภูเก็ต / เกาะสมุย / กระบี่
เหมาะกับสายชอบทะเล วิวสวย และบรรยากาศชิลล์ๆ แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานควบคู่กับการพักผ่อน
โอกาสทางธุรกิจในตลาดนี้
ตลาดดิจิทัลโนแมดไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่องค์กรทั่วโลกเปิดรับ “การทำงานทางไกล” มากขึ้น ส่งผลให้:
- เจ้าของบ้านหรือคอนโด ที่สามารถปรับปรุงให้เหมาะกับโนแมด มีโอกาสสร้างรายได้สูงขึ้นจากค่าเช่าระยะสั้นถึงกลาง
- นักลงทุน สามารถซื้ออสังหาฯ เพื่อปรับเป็นโฮมออฟฟิศหรือห้องพักสไตล์ Co-Living และสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าอสังหาฯ แบบทั่วไป
- ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็ก สามารถทำแพ็กเกจแบบรายเดือนเพื่อดึงดูดกลุ่มนี้ที่อยู่ยาวกว่า 30 วัน
สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนลงทุนในตลาดนี้
- ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเช่าระยะสั้น
- อัปเกรดอินเทอร์เน็ตและระบบความปลอดภัย
- ทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มที่โนแมดใช้งานบ่อย เช่น Airbnb, Facebook Group, Nomad List
- สร้างรีวิวดีๆ จากผู้เข้าพักเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
บทสรุป
ดิจิทัลโนแมดไม่ใช่แค่กลุ่มนักเดินทางทั่วไป แต่เป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวและกำลังมองหา “บ้านชั่วคราว” ที่ช่วยให้พวกเขาทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในไทย ตลาดนี้จึงถือเป็น “โอกาสทอง” ของผู้ที่สนใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง พร้อมปรับตัวให้ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล
หากคุณกำลังมองหาทิศทางใหม่ในการสร้างรายได้จากอสังหาฯ อย่ามองข้ามกลุ่มคนเหล่านี้ เพราะพวกเขาอาจกลายเป็นลูกค้าประจำของคุณในระยะยาวได้เลยครับ
