
บ้านแบบไหนเหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่าระยะสั้น (Short-Term Rental)
การลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมของคนไทย แต่ในยุคที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลกลับมาเต็มเมือง และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการ ปล่อยเช่าระยะสั้น (Short-Term Rental) มากขึ้น เพราะสามารถสร้างผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้น และมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ
แต่คำถามสำคัญคือ “บ้านแบบไหนที่เหมาะกับการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าระยะสั้น?” บทความนี้จะพาไปรู้จักกับลักษณะของบ้านที่น่าลงทุน พร้อมเคล็ดลับสำหรับมือใหม่
1. ทำเลต้องใช่: ใกล้เมือง ท่องเที่ยว เดินทางสะดวก
ทำเลคือหัวใจของการปล่อยเช่าระยะสั้น บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ สถานที่ท่องเที่ยว, ศูนย์กลางธุรกิจ, หรือ แหล่งเดินทางหลักอย่างรถไฟฟ้า สนามบิน ท่าเรือ ย่อมมีแนวโน้มมีลูกค้าเข้าพักสม่ำเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
- กรุงเทพฯ: ย่านอโศก, สุขุมวิท, อารีย์
- เชียงใหม่: ใกล้คูเมืองหรือไนท์บาซาร์
- ภูเก็ต / สมุย / พัทยา: ใกล้ชายหาดหรือถนนคนเดิน
2. ขนาดบ้านที่เหมาะสม ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป
บ้านที่มี 2-3 ห้องนอน มักเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว, ครอบครัว หรือเพื่อนกลุ่มเล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ short-term rental ขนาดแบบนี้ยังช่วยให้ค่าบำรุงรักษาไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับบ้านหลังใหญ่
ข้อแนะนำ: เลือกบ้านที่มีห้องน้ำอย่างน้อย 2 ห้อง เพื่อความสะดวกในการพักร่วมกัน
3. ฟังก์ชันครบ พร้อมอยู่
บ้านที่เหมาะกับการปล่อยเช่าระยะสั้นต้องพร้อมใช้งานทันที เช่น:
- เฟอร์นิเจอร์ครบ (เตียง, โซฟา, โต๊ะอาหาร)
- เครื่องใช้ไฟฟ้า (แอร์, ทีวี, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ, Wi-Fi)
- ครัวเล็กแบบ pantry หรือห้องครัวจริง
การตกแต่งไม่จำเป็นต้องหรูหรา แต่ควร ดูอบอุ่น สะอาด น่าอยู่ และมีสไตล์ที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว
4. ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ
ไม่ว่าสถานที่นั้นจะสวยแค่ไหน หากไม่มีความปลอดภัย ย่อมทำให้แขกรู้สึกไม่มั่นใจในการเข้าพัก บ้านที่มีประตูรั้วแข็งแรง, กล้องวงจรปิด, ระบบล็อคดิจิทัล หรืออยู่ในโครงการที่มี รปภ. 24 ชม. ย่อมได้รับคะแนนรีวิวที่ดีกว่าในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Airbnb หรือ Booking
5. ที่จอดรถและพื้นที่กลางแจ้ง
แขกหลายคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวไทยหรือกลุ่มครอบครัว มักเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หากมีที่จอดรถภายในบริเวณบ้านจะเพิ่มความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ถ้ามีพื้นที่กลางแจ้ง เช่น สวนหย่อม, พื้นที่นั่งเล่น หรือระเบียง ก็สามารถใช้เป็นจุดขายได้ดีในหน้าโฆษณา
6. การบริหารจัดการต้องยืดหยุ่น
บ้านสำหรับ short-term rental ที่ดีต้องสามารถ ดูแลและจัดการได้ง่าย เช่น:
- มีระบบ check-in แบบ self-service (key box หรือ digital lock)
- มีทีมแม่บ้านหรือบริการทำความสะอาดที่พร้อม
- มีระบบ booking และ calendar ที่จัดการผ่านมือถือได้
หากคุณไม่มีเวลาบริหารเอง อาจจ้าง ผู้จัดการทรัพย์สิน (Property Manager) ที่ชำนาญในท้องถิ่น เพื่อดูแลแทนในช่วงแรกได้
7. ROI ดีกว่าการปล่อยเช่าระยะยาว (หากบริหารดี)
การปล่อยเช่าระยะสั้นแม้จะมีความเสี่ยงในแง่ของความถี่และต้นทุนดูแล แต่หากจัดการดี สามารถให้ผลตอบแทน (ROI) ที่สูงกว่าการปล่อยเช่าระยะยาว 1.5 – 2 เท่า
ตัวอย่าง:
- เช่าระยะยาว = 15,000 บาท/เดือน
- เช่ารายวัน = 1,200 บาท/คืน x 20 คืน/เดือน = 24,000 บาท
แม้มีค่าทำความสะอาดและค่าคอมมิชชันแพลตฟอร์ม แต่กำไรสุทธิก็ยังสูงกว่า
สรุป: บ้านที่ดีสำหรับ short-term rental ต้อง “พร้อม-สวย-ปลอดภัย”
ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง และมีเวลาในการบริหารจัดการบ้าง การลงทุนในบ้านเพื่อปล่อยเช่าระยะสั้นถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวของไทย
แค่เลือกทำเลที่ใช่ จัดบ้านให้สวย ดูแลให้สะอาด และใส่ใจบริการลูกค้า โอกาสสร้าง “รายได้แบบยั่งยืน” ก็อยู่ไม่ไกลเลยครับ