032T0801 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนหลงอำนาจมักจบไม่สวย

การขอใบอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่ต้องเตรียมอะไร: ขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องรู้

สำหรับใครที่มีแผนจะสร้างบ้านใหม่บนที่ดินของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัว บ้านสำหรับครอบครัว หรือแม้แต่บ้านเพื่อปล่อยเช่า สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก่อนลงมือก่อสร้างคือ การขอใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน (แบบ อ.1) ตามกฎหมายควบคุมอาคารของประเทศไทย

แม้กระบวนการนี้อาจดูยุ่งยากในสายตาหลายคน แต่หากเข้าใจขั้นตอน และเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ก็สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ไม่เสี่ยงต่อการถูกสั่งรื้อถอนหรือถูกปรับภายหลัง บทความนี้จะพาคุณไปดูว่า ต้องเตรียมอะไรบ้างในการขอใบอนุญาตก่อสร้างบ้านใหม่


1. เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม

สำเนาเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน

  • โฉนดที่ดิน (น.ส.4 จ.) หรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินรูปแบบอื่นที่กฎหมายรับรอง
  • สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของเจ้าของที่ดิน

หมายเหตุ: หากเป็นที่ดินเช่า ต้องแนบสัญญาเช่าถูกต้องตามกฎหมายและหนังสือยินยอมจากเจ้าของที่ดิน


แบบแปลนก่อสร้าง (แบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม)

ต้องจัดทำโดย สถาปนิกและวิศวกรที่มีใบประกอบวิชาชีพ อย่างถูกต้อง และแบบต้องครอบคลุม:

  • แปลนพื้น, หน้าตัด, รูปด้าน
  • รายละเอียดโครงสร้าง คาน เสา ฐานราก
  • แผนผังระบบไฟฟ้า น้ำประปา การระบายน้ำ
  • ผังบริเวณแสดงระยะร่นและที่ตั้งอาคารบนที่ดิน

หนังสือรับรองจากวิศวกรและสถาปนิก

  • แสดงว่าผู้ออกแบบเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ถูกต้อง
  • รับรองว่าแบบที่ออกแบบตรงตามกฎหมายควบคุมอาคาร

แบบคำขออนุญาต (แบบฟอร์ม อ.1)

สามารถขอแบบฟอร์มได้ที่สำนักงานเขต หรือเทศบาลที่ดูแลพื้นที่


2. ตรวจสอบกฎหมายผังเมืองและข้อจำกัดก่อนออกแบบ

ก่อนเริ่มออกแบบบ้าน ควรศึกษาข้อกำหนดของพื้นที่ เช่น:

  • พื้นที่ของคุณอยู่ใน เขตสีอะไร (ตามผังเมืองรวม) เช่น สีเหลือง สีชมพู สีแดง
  • ข้อจำกัดของพื้นที่ เช่น สร้างสูงได้กี่ชั้น ต้องมีระยะร่นเท่าไร
  • พื้นที่ใกล้แม่น้ำหรือทางสาธารณะอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม

เคล็ดลับ: ปรึกษาสถาปนิกที่มีประสบการณ์ในเขตพื้นที่นั้น จะช่วยให้การออกแบบไม่ขัดกับข้อกฎหมาย


3. ยื่นขออนุญาตที่ไหน?

คุณสามารถยื่นคำขอได้ที่ สำนักงานเขต / อบต. / เทศบาล ที่ดูแลพื้นที่ที่ดินของคุณอยู่ โดยใช้เอกสารที่กล่าวมาทั้งหมดแนบไปพร้อมกัน

เจ้าหน้าที่จะพิจารณาเอกสาร ตรวจสอบแปลน และลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อทุกอย่างผ่าน ก็จะออกใบอนุญาตก่อสร้างให้ภายใน 30 วัน (โดยประมาณ)


4. ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย

  • ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอยของบ้าน โดยปกติจะ คำนวณเป็นตารางเมตร
  • ค่าใช้จ่ายประมาณ 4-10 บาทต่อตารางเมตร (ขึ้นอยู่กับท้องที่)

เคล็ดลับ: ควรสอบถามค่าธรรมเนียมล่วงหน้าจากสำนักงานท้องถิ่นเพื่อเตรียมงบให้เหมาะสม


5. ข้อควรรู้เพิ่มเติม

  • ห้ามเริ่มก่อสร้างก่อนรับใบอนุญาตโดยเด็ดขาด เพราะผิดกฎหมายและอาจถูกสั่งหยุดก่อสร้างหรือรื้อถอน
  • หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว

Related Posts

[สมบูรณ์] 200T0906 แปะ QR CODE บนไหล่เธอ เมื่อเจอความจริงถึงกับ ละครสั้น

บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว นวัตกรรมการอยู่อาศัยแห่งอนาคต บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือศูนย์รวมความบันเทิง ในยุคดิจิทัล การใช้ชีวิตของครอบครัวไทยไม่ได้จำกัดเพียงการพักผ่อนในบ้านแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนไปสู่การผสมผสาน เทคโนโลยีความบันเทิงขั้นสูง เข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับความสนใจมากขึ้นคือ บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน การเรียนรู้ และการสร้างสัมพันธ์ในครอบครัว AR และ VR คืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับบ้านยุคใหม่ เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในบ้าน ไม่เพียงให้ความบันเทิง…

[สมบูรณ์] 199T0906 ปริศนาความทรงจำ

บ้านในพื้นที่ Slow-Living Community Slow-Living คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม ในยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การเดินทาง และการแข่งขันทางสังคม แนวคิด Slow-Living ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีสมดุล และให้ความสำคัญกับสุขภาพกายใจ บ้านที่ตั้งอยู่ใน Slow-Living Community จึงไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสังคมที่สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ บ้านใน Slow-Living Community เป็นอย่างไร ข้อดีของบ้านใน Slow-Living…

[สมบูรณ์] 198T0906 วิวาห์ล่มพาพบรัก

บ้านที่ออกแบบให้เชื่อม Indoor-Outdoor Seamless เติมเต็มวิถีชีวิตคนไทยยุคใหม่ 🌿🏡✨ ทำไมบ้านสมัยใหม่ต้องเชื่อม Indoor-Outdoor วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับธรรมชาติและพื้นที่กลางแจ้งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เรือนไทยที่มีชานกว้างให้คนในครอบครัวรวมตัว ไปจนถึงสวนหลังบ้านที่ใช้ปลูกผักหรือจัดงานเล็ก ๆ ในครอบครัว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ้านสมัยใหม่ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่น แต่ความต้องการ “พื้นที่เปิดโล่ง” ก็ยังคงอยู่ การออกแบบบ้านที่ เชื่อม Indoor-Outdoor แบบ Seamless จึงเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านและนอกบ้านต่อเนื่องกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งในเชิงความสะดวก ความสวยงาม และประโยชน์ด้านสุขภาพ…