
วิธีขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารในไทย: คู่มือสำหรับผู้ซื้อบ้านมือใหม่
การมีบ้านเป็นของตนเองคือความฝันของใครหลายคนในประเทศไทย แต่ด้วยราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การใช้เงินออมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงทำให้การขอ “สินเชื่อบ้าน” จากธนาคารกลายเป็นทางเลือกหลักของผู้ซื้อบ้านรุ่นใหม่
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเรียนรู้ขั้นตอนสำคัญของการขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารในไทย พร้อมเทคนิคการเตรียมตัวให้อนุมัติผ่านง่ายขึ้น และข้อควรระวังสำหรับผู้ขอกู้ครั้งแรก
✅ สินเชื่อบ้านคืออะไร?
สินเชื่อบ้าน หรือ “สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” คือเงินกู้ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโด โดยธนาคารจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้ผู้ขาย และผู้กู้จะผ่อนชำระคืนเป็นรายเดือน พร้อมดอกเบี้ยตามอัตราที่ตกลงกัน
🧭 ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้าน
1. ประเมินกำลังผ่อนของตนเอง
ก่อนติดต่อธนาคาร ควรคำนวณว่าเรามีรายได้เพียงพอในการผ่อนบ้านหรือไม่ โดยทั่วไป ธนาคารจะพิจารณาวงเงินกู้จากรายได้ของผู้กู้ โดย ค่างวดต่อเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้รวม
ตัวอย่าง: หากมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ค่างวดสูงสุดที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 12,000 บาท
2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
ธนาคารจะต้องตรวจสอบความสามารถทางการเงิน เอกสารที่ควรเตรียม ได้แก่:
- สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3–6 เดือน หรือเอกสารแสดงรายได้อื่น
- รายการเดินบัญชี (Statement) ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน
- เอกสารการจองบ้าน หรือสัญญาจะซื้อจะขาย
- เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น โฉนด หรือใบอนุญาตก่อสร้าง (สำหรับบ้านปลูกเอง)
3. เลือกธนาคารและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย
แต่ละธนาคารมีโปรโมชั่นต่างกัน เช่น:
- ดอกเบี้ยคงที่ในช่วงปีแรก
- การผ่อนต่ำในปีแรก
- ค่าธรรมเนียมการประเมินหรือค่าจดจำนองลดลง
แนะนำให้เปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจ เพื่อเลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความสามารถทางการเงิน
4. ยื่นขอสินเชื่อและรอการอนุมัติ
เมื่อเลือกธนาคารแล้ว ให้ยื่นเอกสารและใบสมัคร จากนั้นธนาคารจะ:
- ตรวจสอบเอกสาร
- ตรวจเครดิตบูโร
- ประเมินราคาทรัพย์สิน
โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7–21 วันทำการ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเอกสาร
5. เซ็นสัญญาและดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อได้รับการอนุมัติ ผู้กู้จะต้องเซ็นสัญญาสินเชื่อ และนัดวันโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน ธนาคารจะเป็นผู้ถือจำนอง และจ่ายเงินให้ผู้ขายโดยตรง
📌 เทคนิคให้ขอสินเชื่อผ่านง่ายขึ้น
- ไม่มีหนี้ค้างชำระ: ชำระหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้อื่น ๆ ให้ตรงเวลา
- รายได้มั่นคง: ผู้ที่มีงานประจำเกิน 6 เดือน หรือมีธุรกิจที่มั่นคงมักมีโอกาสอนุมัติสูง
- มีเงินออม: การมีเงินเก็บในบัญชีแสดงถึงความสามารถในการบริหารการเงิน
- มีผู้กู้ร่วม: หากรายได้ไม่พอ สามารถขอผู้กู้ร่วม เช่น คู่สมรส หรือญาติ เพื่อเพิ่มวงเงินได้
❗ ข้อควรระวัง
- อย่าเลือกผ่อนเกินกำลัง: แม้ธนาคารจะอนุมัติวงเงินสูง แต่ควรเลือกผ่อนในระดับที่ไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิต
- ตรวจสอบเงื่อนไขดอกเบี้ยล่วงหน้า: บางธนาคารอาจมีดอกเบี้ยต่ำในปีแรก แต่ปรับขึ้นสูงในปีถัดไป
- ระวังค่าธรรมเนียมแฝง: เช่น ค่าประกันชีวิต ค่าประเมิน ค่าทนาย ค่าธรรมเนียมการโอน ควรสอบถามให้ละเอียด
- อย่าปลอมเอกสาร: ธนาคารสามารถตรวจพบได้ และจะปฏิเสธการให้สินเชื่อทันที
💡 สรุป
การขอสินเชื่อบ้านไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และเลือกธนาคารที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด การมีบ้านในฝันสามารถกลายเป็นจริงได้ โดยไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากศูนย์