066T0717 อนาคตที่ดี จากการวางแผนที่ดี ดอยแม่สลอง สื่อสังคมออนไลน์

ความเสี่ยงจากการซื้อบ้านที่ติดคดี: สิ่งที่ผู้ซื้อควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน

การซื้อบ้านเป็นหนึ่งในการตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญที่สุดในชีวิตของหลายคน ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน ความถูกต้องและความปลอดภัยทางกฎหมายคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของ “บ้านที่ติดคดีความ” ซึ่งอาจดูน่าสนใจเพราะราคาถูกกว่าท้องตลาด แต่ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นภาระระยะยาว

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า “บ้านติดคดี” คืออะไร มีความเสี่ยงในด้านใดบ้าง และควรตรวจสอบอย่างไรให้ปลอดภัยก่อนตัดสินใจซื้อ


บ้านติดคดีคืออะไร?

บ้านติดคดีหมายถึง บ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ:

  • การถูกฟ้องร้องในคดีแพ่ง เช่น คดีกู้ยืมเงิน การเป็นหนี้สินโดยใช้บ้านค้ำประกัน
  • การมีภาระจำนอง หรือติดการบังคับคดีจากเจ้าหนี้
  • การมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิครอบครอง เช่น กรณีที่มีผู้บุกรุก หรือมีผู้ที่อ้างสิทธิในบ้านหลังนั้น
  • การโอนสิทธิไม่ถูกต้อง เช่น การซื้อขายโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่วม หรือมีผู้เยาว์เป็นเจ้าของร่วม

บ้านลักษณะนี้แม้จะสามารถซื้อขายได้ในบางกรณี แต่ต้องอาศัยความเข้าใจด้านกฎหมายและการตรวจสอบอย่างรอบคอบ


ความเสี่ยงที่ผู้ซื้อควรระวัง

1. การโอนกรรมสิทธิ์ไม่สมบูรณ์

หากบ้านยังมีข้อพิพาท ผู้ซื้ออาจไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามปกติ หรือโอนได้แต่มีผลผูกพันทางกฎหมายย้อนหลัง

2. เสี่ยงต่อการถูกยึดหรือขายทอดตลาด

ในกรณีที่บ้านถูกนำไปค้ำประกันหนี้สิน ผู้ซื้ออาจซื้อบ้านได้ในราคาถูก แต่หากไม่มีการเคลียร์หนี้กับเจ้าหนี้เดิมให้ชัดเจน บ้านนั้นอาจถูกยึดหรือบังคับขายโดยศาล

3. ปัญหาผู้พักอาศัยเดิมไม่ยอมย้ายออก

แม้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมายแล้ว แต่ผู้พักอาศัยเดิมอาจไม่ยินยอมออกจากบ้าน จนต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อฟ้องขับไล่ ซึ่งเสียทั้งเงินและเวลา

4. ภาระซ่อนเร้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าธรรมเนียมค้างจ่าย

หากผู้ขายไม่ได้ชำระค่าสาธารณูปโภคหรือค่าส่วนกลางค้างไว้ ผู้ซื้ออาจต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทน

5. เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี

แม้ผู้ซื้อมั่นใจในเอกสาร แต่หากมีผู้ร้องเรียนหรือฟ้องคดีในภายหลัง อาจต้องเสียเงินว่าความหรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ยืดเยื้อ


แนวทางการตรวจสอบก่อนซื้อบ้าน

  1. ตรวจสอบสถานะทางกฎหมายของทรัพย์สิน
    ขอคัดโฉนดที่ดินจากสำนักงานที่ดิน และตรวจสอบว่ามีภาระผูกพันหรือคดีความใดอยู่หรือไม่
  2. สอบถามเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน
    เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ว่าบ้านหลังนั้นมีการยึดหรือถูกฟ้องร้องอยู่หรือไม่
  3. ตรวจเอกสารการครอบครองและผู้ขาย
    ตรวจสอบว่าผู้ขายเป็นเจ้าของโดยชอบด้วยกฎหมายหรือเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทน
  4. ตรวจประวัติทางคดีจากศาลหรือหน่วยงานรัฐ
    โดยเฉพาะในกรณีที่บ้านนั้นเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการบังคับคดีหรือการยึดทรัพย์
  5. ปรึกษาทนายความก่อนทำสัญญา
    เพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงมีความปลอดภัย และสามารถตรวจสอบข้อกฎหมายที่อาจซับซ้อนได้อย่างถูกต้อง

หากต้องการซื้อบ้านติดคดี ควรทำอย่างไร?

  • ขอให้มีการ “เคลียร์ภาระทุกอย่าง” ก่อนทำสัญญา โดยให้ผู้ขายนำเงินที่ได้จากการขายไปชำระหนี้คงค้างทั้งหมด
  • เขียนเงื่อนไขในสัญญาให้ชัดเจน เช่น หากไม่สามารถโอนได้ ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญา
  • ขอสัญญาจะซื้อจะขายที่มีการระบุวันโอนชัดเจน และขอวางเงินมัดจำไว้ภายใต้บัญชีเอสโครว์ (Escrow)

สรุป

บ้านติดคดีอาจดูเป็นโอกาสทองเพราะราคาต่ำกว่าตลาด แต่ก็มีความเสี่ยงสูงหากไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด ผู้ซื้อที่ฉลาดต้องรู้เท่าทันกฎหมาย ไม่เร่งรีบ และควรมีผู้เชี่ยวชาญ เช่น ทนายความ หรือที่ปรึกษาทางอสังหาฯ คอยให้คำแนะนำ

เพราะบ้านคือทรัพย์สินระยะยาว หากเลือกผิดเพียงครั้งเดียว อาจต้องเสียเวลา เสียเงิน และเสียใจไปอีกนาน

Related Posts

[สมบูรณ์] 200T0906 แปะ QR CODE บนไหล่เธอ เมื่อเจอความจริงถึงกับ ละครสั้น

บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว นวัตกรรมการอยู่อาศัยแห่งอนาคต บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือศูนย์รวมความบันเทิง ในยุคดิจิทัล การใช้ชีวิตของครอบครัวไทยไม่ได้จำกัดเพียงการพักผ่อนในบ้านแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนไปสู่การผสมผสาน เทคโนโลยีความบันเทิงขั้นสูง เข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับความสนใจมากขึ้นคือ บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน การเรียนรู้ และการสร้างสัมพันธ์ในครอบครัว AR และ VR คืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับบ้านยุคใหม่ เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในบ้าน ไม่เพียงให้ความบันเทิง…

[สมบูรณ์] 199T0906 ปริศนาความทรงจำ

บ้านในพื้นที่ Slow-Living Community Slow-Living คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม ในยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การเดินทาง และการแข่งขันทางสังคม แนวคิด Slow-Living ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีสมดุล และให้ความสำคัญกับสุขภาพกายใจ บ้านที่ตั้งอยู่ใน Slow-Living Community จึงไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสังคมที่สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ บ้านใน Slow-Living Community เป็นอย่างไร ข้อดีของบ้านใน Slow-Living…

[สมบูรณ์] 198T0906 วิวาห์ล่มพาพบรัก

บ้านที่ออกแบบให้เชื่อม Indoor-Outdoor Seamless เติมเต็มวิถีชีวิตคนไทยยุคใหม่ 🌿🏡✨ ทำไมบ้านสมัยใหม่ต้องเชื่อม Indoor-Outdoor วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับธรรมชาติและพื้นที่กลางแจ้งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เรือนไทยที่มีชานกว้างให้คนในครอบครัวรวมตัว ไปจนถึงสวนหลังบ้านที่ใช้ปลูกผักหรือจัดงานเล็ก ๆ ในครอบครัว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ้านสมัยใหม่ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่น แต่ความต้องการ “พื้นที่เปิดโล่ง” ก็ยังคงอยู่ การออกแบบบ้านที่ เชื่อม Indoor-Outdoor แบบ Seamless จึงเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านและนอกบ้านต่อเนื่องกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งในเชิงความสะดวก ความสวยงาม และประโยชน์ด้านสุขภาพ…