
ซื้อบ้านกับแฟนแต่ยังไม่แต่งงาน ทำได้ไหม? เรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจร่วมลงทุน
ในยุคปัจจุบัน คู่รักหลายคู่เริ่มต้นสร้างชีวิตร่วมกันตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่พิธีแต่งงานแบบเป็นทางการ โดยเฉพาะการวางแผนอนาคตร่วมกันในเรื่องการเงิน ที่อยู่อาศัย และการลงทุน หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ “สามารถซื้อบ้านร่วมกับแฟนที่ยังไม่ได้แต่งงานได้หรือไม่?”
คำตอบคือ สามารถทำได้ในทางกฎหมาย แต่ก็มีรายละเอียดหลายด้านที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรรมสิทธิ์ การผ่อนบ้าน หรือกรณีความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลง
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับข้อควรรู้ทางกฎหมาย และข้อควรระวังต่าง ๆ สำหรับคู่รักที่กำลังพิจารณาซื้อบ้านร่วมกันก่อนแต่งงาน
ซื้อบ้านร่วมกันได้ไหมหากยังไม่จดทะเบียนสมรส?
ตามกฎหมายไทย บุคคลทั่วไปสามารถซื้อทรัพย์สินร่วมกันได้แม้ไม่ได้แต่งงาน ดังนั้น คู่รักที่ยังไม่จดทะเบียนสมรสสามารถซื้อบ้านร่วมกันได้ โดยมีทางเลือกหลัก 2 แบบ คือ:
- ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน: ทั้งสองฝ่ายมีชื่อเป็นเจ้าของบ้านและที่ดิน (หรือเฉพาะบ้าน) ในโฉนดตามสัดส่วนที่ตกลงกัน
- ถือกรรมสิทธิ์เพียงคนใดคนหนึ่ง: โดยอีกฝ่ายช่วยผ่อนชำระ แต่ไม่มีชื่อในโฉนด
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการถือกรรมสิทธิ์ร่วม
● ควรระบุชัดเจนในโฉนดหรือสัญญาซื้อขาย
เช่น ถือครึ่งหนึ่งเท่ากัน (50/50) หรือฝ่ายหนึ่งมากกว่าอีกฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
● การผ่อนชำระร่วมต้องมีการจัดการทางบัญชีอย่างโปร่งใส
เช่น แยกบัญชีโอนชำระเป็นสัดส่วน หรือจ่ายเข้าบัญชีเดียวกันแต่มีหลักฐานชัดเจน
● หากต้องขายบ้านหรือโอนกรรมสิทธิ์ ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย
กรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น เลิกรากัน
แม้จะไม่ได้แต่งงาน แต่หากบ้านเป็นทรัพย์สินร่วมกันก็ต้องมีการตกลงหรือแบ่งกรรมสิทธิ์อย่างชัดเจน หากไม่มีการระบุสัดส่วนไว้ อาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย เช่น:
- หนึ่งในสองฝ่ายต้องการขายบ้าน แต่คู่กรณีไม่ยินยอม
- ข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในการอยู่อาศัย
- การเรียกร้องเงินชดเชยที่อีกฝ่ายได้ลงทุนลงแรง
ทางออกที่ดีคือทำ “สัญญาร่วมลงทุน” หรือ “บันทึกข้อตกลงร่วมกัน” ตั้งแต่ต้น เพื่อระบุรายละเอียดต่าง ๆ เช่น:
- สัดส่วนการลงทุน
- วิธีการผ่อนชำระ
- แนวทางการจัดการหากมีการเลิกราหรือขายบ้าน
- การตกลงใช้บ้านเป็นที่อยู่อาศัยหลักของฝ่ายใด
ทางเลือกเมื่อซื้อบ้านในชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
คู่รักบางคู่เลือกให้บ้านอยู่ในชื่อของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อความสะดวกในการขอสินเชื่อ แต่หากอีกฝ่ายร่วมผ่อนหรือให้เงินบางส่วน ก็ควรทำ “หนังสือระบุการร่วมลงทุน” หรือ “บันทึกช่วยจำ” เพื่อรักษาสิทธิของตนเอง
ข้อแนะนำจากมุมมองทางกฎหมาย
- ปรึกษาทนายความหรือที่ปรึกษาทางกฎหมายก่อนตัดสินใจร่วมซื้อบ้าน
- ตรวจสอบคุณสมบัติการขอสินเชื่อของทั้งสองฝ่าย หากขอกู้ร่วม
- ทำเอกสารการตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร และให้พยานลงนามรับรอง
- อย่าลืมเรื่อง ประกันบ้าน และ ภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจผูกพันทั้งสองฝ่ายในอนาคต
สรุป
การซื้อบ้านกับแฟนที่ยังไม่ได้แต่งงาน สามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีความรอบคอบ และการวางแผนที่ดี ทั้งในเรื่องสิทธิความเป็นเจ้าของ การผ่อนชำระ และแนวทางการจัดการหากความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลง การพูดคุยเปิดใจและทำข้อตกลงล่วงหน้าจะช่วยให้การสร้างอนาคตร่วมกันเป็นเรื่องราบรื่น และลดความเสี่ยงทางกฎหมายในระยะยาว
เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือ “รากฐานของความมั่นคง” ที่ควรสร้างด้วยความเข้าใจทั้งในด้านอารมณ์และเหตุผล