027T0717 เพราะอะไรจับเนื้อต้องตัวกันยิ่งกว่าแฟน แค่เพ้อ

ซื้อคอนโดไม่ใช่แค่เรื่องของราคาหน้าสัญญา

หลายคนที่กำลังวางแผนจะซื้อคอนโดมิเนียม มักโฟกัสอยู่กับ “ราคาขาย” ที่แสดงในโบรชัวร์หรือหน้าโครงการเป็นหลัก แต่ความจริงแล้ว การซื้อคอนโดไม่ได้จบแค่ยอดในสัญญาซื้อขาย เพราะยังมี ค่าใช้จ่ายแฝงอีกมากมาย ที่ผู้ซื้อควรเตรียมพร้อม เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือปัญหาทางการเงินในอนาคต

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับค่าใช้จ่ายแฝงที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจวางเงินจอง พร้อมคำแนะนำเบื้องต้นในการบริหารงบประมาณให้เหมาะสมและปลอดภัย


1. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์

หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ค่าธรรมเนียมการโอน ที่เรียกเก็บโดยกรมที่ดิน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย (แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า)

แม้ในบางโครงการจะมีการจัดโปรโมชั่น “ฟรีค่าโอน” แต่ควรสอบถามให้ชัดเจนว่า “ฟรีเฉพาะค่าธรรมเนียม” หรือรวมค่าภาษีอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ เพราะบางรายการอาจยังต้องจ่ายเองอยู่ดี


2. ค่ากองทุนส่วนกลาง

ค่ากองทุนส่วนกลางคือเงินก้อนที่เจ้าของห้องชุดต้องชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อใช้เป็นเงินสำรองในการดูแลส่วนกลาง เช่น ลิฟต์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่สีเขียว และระบบรักษาความปลอดภัย

อัตราค่ากองทุนมักคิดเป็น บาทต่อตารางเมตร ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 300–600 บาท/ตร.ม. แล้วแต่ระดับของโครงการ

ตัวอย่าง: ถ้าคุณซื้อห้องขนาด 30 ตารางเมตร และค่ากองทุนอยู่ที่ 500 บาท/ตร.ม. คุณจะต้องจ่ายเงินกองทุนครั้งแรกเป็นเงิน 15,000 บาท ทันทีตอนโอน


3. ค่าส่วนกลางรายปี (หรือรายเดือน)

หลังจากจ่ายค่ากองทุนส่วนกลางแล้ว ยังมี ค่าส่วนกลางรายปีหรือรายเดือน ซึ่งเป็นค่าบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนกลางอย่างต่อเนื่อง โดยมักคิดเป็นรายเดือน

อัตรานี้จะแตกต่างกันตามโครงการ เช่น 40–80 บาท/ตร.ม./เดือน ซึ่งถ้าเป็นโครงการที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ ยิ่งต้องใช้เงินดูแลมาก และค่าส่วนกลางก็อาจสูงตามไปด้วย


4. ค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟ และค่าประกันการใช้

แม้บางโครงการจะเตรียมระบบไว้เรียบร้อย แต่ผู้ซื้อหลายรายยังต้องเสีย ค่าติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและประปา กับการไฟฟ้าและการประปาในพื้นที่ รวมถึงเงินประกันการใช้งาน ซึ่งอาจรวมกันอยู่ที่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท

ควรสอบถามจากโครงการให้ชัดเจนว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้รวมในราคาขายหรือยัง หากยัง ต้องกันงบไว้เพื่อไม่ให้ขาดมือ


5. ค่าเฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งเพิ่มเติม

แม้บางห้องจะขายแบบ “Fully Furnished” แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงที่หลายคนมองข้าม เช่น ค่าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้แถมมา หรือของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ

นอกจากนี้ หากต้องการปรับเปลี่ยนห้อง เช่น กั้นห้อง เพิ่มพื้นที่เก็บของ หรือปรับเปลี่ยนวัสดุบางอย่าง ย่อมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มที่ควรคำนวณไว้ล่วงหน้า


6. ค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อ และประกันชีวิต

หากคุณซื้อคอนโดด้วยการขอสินเชื่อกับธนาคาร ต้องเตรียมรับ ค่าประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ธนาคารอาจกำหนดให้ซื้อควบคู่กับสินเชื่อ

ค่าประกันนี้อาจเป็นรายปีหรือจ่ายครั้งเดียว และอาจอยู่ที่หลักหมื่นถึงแสนบาท แล้วแต่ยอดเงินกู้และระยะเวลาผ่อน


7. ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด

นอกจากรายการหลัก ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยที่ควรรู้ เช่น

  • ค่าธรรมเนียมจดจำนอง (ถ้ามีสินเชื่อ) อยู่ที่ 1% ของวงเงินกู้
  • ค่าประกันอัคคีภัย (ธนาคารบางแห่งบังคับทำ)
  • ค่าโอนชื่อในทะเบียนบ้าน
  • ค่าเดินเอกสารหรือค่าธรรมเนียมของโครงการ

สรุป: รู้ก่อน เตรียมก่อน ไม่บานปลาย

แม้การซื้อคอนโดจะเป็นการลงทุนที่น่าตื่นเต้น แต่หากมองข้ามค่าใช้จ่ายแฝง อาจทำให้คุณเผชิญกับภาระทางการเงินเกินความคาดหมาย การวางแผนล่วงหน้าและสอบถามข้อมูลจากโครงการให้ละเอียดทุกขั้นตอน จะช่วยให้การเป็นเจ้าของคอนโดเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีเรื่องน่าปวดหัวตามมา

เพราะการเป็นเจ้าของคอนโด ไม่ได้จบแค่การวางเงินจอง แต่เริ่มต้นจากการวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่วันแรก

Related Posts

[สมบูรณ์] 200T0906 แปะ QR CODE บนไหล่เธอ เมื่อเจอความจริงถึงกับ ละครสั้น

บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว นวัตกรรมการอยู่อาศัยแห่งอนาคต บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือศูนย์รวมความบันเทิง ในยุคดิจิทัล การใช้ชีวิตของครอบครัวไทยไม่ได้จำกัดเพียงการพักผ่อนในบ้านแบบดั้งเดิมอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนไปสู่การผสมผสาน เทคโนโลยีความบันเทิงขั้นสูง เข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับความสนใจมากขึ้นคือ บ้านที่มีโซน AR/VR Gaming สำหรับครอบครัว ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อน การเรียนรู้ และการสร้างสัมพันธ์ในครอบครัว AR และ VR คืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับบ้านยุคใหม่ เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในบ้าน ไม่เพียงให้ความบันเทิง…

[สมบูรณ์] 199T0906 ปริศนาความทรงจำ

บ้านในพื้นที่ Slow-Living Community Slow-Living คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม ในยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การเดินทาง และการแข่งขันทางสังคม แนวคิด Slow-Living ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเน้นการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีสมดุล และให้ความสำคัญกับสุขภาพกายใจ บ้านที่ตั้งอยู่ใน Slow-Living Community จึงไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสังคมที่สนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ บ้านใน Slow-Living Community เป็นอย่างไร ข้อดีของบ้านใน Slow-Living…

[สมบูรณ์] 198T0906 วิวาห์ล่มพาพบรัก

บ้านที่ออกแบบให้เชื่อม Indoor-Outdoor Seamless เติมเต็มวิถีชีวิตคนไทยยุคใหม่ 🌿🏡✨ ทำไมบ้านสมัยใหม่ต้องเชื่อม Indoor-Outdoor วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับธรรมชาติและพื้นที่กลางแจ้งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เรือนไทยที่มีชานกว้างให้คนในครอบครัวรวมตัว ไปจนถึงสวนหลังบ้านที่ใช้ปลูกผักหรือจัดงานเล็ก ๆ ในครอบครัว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ้านสมัยใหม่ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ยืดหยุ่น แต่ความต้องการ “พื้นที่เปิดโล่ง” ก็ยังคงอยู่ การออกแบบบ้านที่ เชื่อม Indoor-Outdoor แบบ Seamless จึงเป็นคำตอบที่ลงตัว เพราะช่วยให้การใช้ชีวิตในบ้านและนอกบ้านต่อเนื่องกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งในเชิงความสะดวก ความสวยงาม และประโยชน์ด้านสุขภาพ…